ต้องบอกว่าปัจจุบันโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะมีการใช้งานระบบลมอัดอยู่แล้ว ซึ่งจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่แตกต่างกันออกไป โดยโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กบางแห่งก็อาจจะยังมีใช้ปั๊มลมแบบลูกสูบ ส่วนโรงงานขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็จะมีการใช้งานปั๊มลมแบบสกรู ไม่ว่าจะเป็นปั๊มลมรูปแบบไหนก็แล้วแต่จะมีการกินพลังงานไฟฟ้าเพื่อผลิตลมอัดออกมาให้ใช้งาน สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการควรรู้เลยก็คือ ลมอัดที่เราใช้นั้นมีต้นทุน โดยต้นทุนนั้นคือค่าไฟที่เราจ่ายรายเดือนนั้นเอง
ปัญหาลมรั่วในโรงงานทำไมถึงเป็นปัญหาหนึ่งของโรงงานอุตสาหกรรม เพราะว่า ลมที่รั่วนั้นถือว่าเป็นลมที่ไม่ได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการผลิตสินค้าของเครื่องจักรแต่อย่างใด แต่ไม่การทิ้งลมไปเฉยๆ ซึ่งจากที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ต้นทุนของลมอัดก็คือค่าไฟฟ้านั้นเอง แสดงว่าเมื่อมีลมรั่วผู้ประกอบการกำลังจะสูญเสียค่าใช้จ่ายในรูปแบบของค่าไฟโดยเปล่าประโยชน์
จากที่กล่าวไปข้างต้น ต้นทุนของลมอัดคือค่าไฟที่โรงงานเสีย
จากตารางข้างต้น เราสมมุติว่า ปริมาณลมรั่วของเรานั้นโดยรวมหลายๆจุดเข้าด้วยกันแล้วเท่ากับ ปริมาณรูขนาด 4 มิลลิเมตร (ซึ่งเป็นสมุมติฐานที่น้อยกว่าความเป็นจริง แค่ต้องการแสดงตัวอย่างให้ทราบ) จะพบว่าใน 1 นาที ปริมาณลมที่รั่วออกไปนั้นจะมีค่าเท่ากับ 1.03 ลบ.ม ต่อนาที พบว่าปริมาณลมขนาดนี้เทียบเท่ากับปั๊มลมสกรูขนาด 7.42 กิโลวัตต์ ต่อไปเราจะมาคำนวนค่าไฟที่เราสูญเสียไปกับลมรั่วกัน
ค่าไฟที่สูญเสีย
= ( ขนาด กิโลวัตต์ เทียบเท่า ) x (จำนวนชั่วโมงของการทำงานไลน์ผลิต)
x (จำนวนวันทำงาน) x (ค่าไฟต่อหน่วย)
= (7.42 กิโลวัตต์ ) x (24 ชั่วโมง) x (320 วันทำงาน) x (4.25 บาทยูนิต)
= 242,188 บาท/ ปี
เราจะเห็นได้ว่าแค่ปริมาณลมรั่วโดยรวมเพียงขนาดรู 4 มิลลิเมตรนั้น สามารถทำให้ผู้ประกอบการสูญเสียเงินไปได้ปีละ 200,000 บาท เลยทีเดียว
เมื่อเกิดปัญหาลมรั่วแล้วนั้น แน่นอนว่าลมที่รั่วเทียบเท่ากับปริมาณลมที่ใช้เพิ่มในไลน์ผลิต
กรณีสมมุติ : เมื่อก่อนในไลน์ผลิตมีการใช้ลมอยู่ที่ 9 ลบ.ม ต่อนาที ได้มีการใช้ปั๊มลมสกรู 75 แรงม้า มีกำลังการผลิตลมอยู่ที่ 10 ลบ.ม ต่อนาที แน่นอนว่าขนาดของปั๊มลมสกรูเพียงพอต่อการใช้งาน
แต่ปัจจุบันเกิดปัญหาลมรั่ว ซึ่งปริมาณลมรั่ว คิดเป็น 1.03 ลบ.ม ต่อนาที ทำให้ปริมาณลมใช้งานเพิ่มเป็น 10.03 ลบ.ม ต่อนาที พบว่ากำลังการใช้ลมเทียบเท่ากับกำลังการผลิตลม ทำให้ปั๊มลมแบบสกรูไม่มีเวลาพักและทำงานหนักจนเกินไป
ปัญหาที่จะตามมาของกรณีสมมุติดังกล่าวคือ ปั๊มลมสกรูจะเกิดการชำรุดก่อนอายุอันควรหรือ อาจจะเกิดเรื่องของ Pressure drop ในไลน์ผลิตและส่งผลเสียต่อเครื่องจักรก็เป็นไปได้
เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการอย่าปล่อยให้เรื่องลมรั่วในไลน์ผลิตเป็นเรื่องเล็กอีกต่อไป